วันจันทร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2555

บันทึกการนิเทศภายใน..หัวใจอยู่ที่เด็ก : 2

ครั้งที่ ปีการศึกษา ๒๕๕๒
          อันเนื่องมาจากวันที่ ๘ กันยายน ของทุกปี เป็นวันที่ระลึกสากลแห่งการเรียนรู้หนังสือ “INTERNATIONAL LITERACY DAY” ทุกประเทศที่เป็นสมาชิกองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ได้พร้อมใจกันจัดกิจกรรมในวันดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา ๔๒ ปี มาแล้ว เจตนารมณ์ก็เพื่อที่จะกระตุ้นเตือนสังคมของประเทศต่างๆได้ตระหนักถึงความ สำคัญของกิจกรรมการศึกษาที่เรียกว่า LITERACY ซึ่งในภาษาไทยแปลคำนี้ว่า การรู้หนังสือ

          จะเห็นได้ว่า เป็นเวลาหลายทศวรรษที่ประเทศไทยเราได้คำนึงถึงในเรื่องนี้ มีการปฏิรูปการศึกษา ปรับปรุงหลักสูตร ปรับเปลี่ยนวิธีการสอน รวมจนถึงปรับโครงสร้างหน่วยงานเพื่อให้เกิดความคล่องแคล่วในการบริหารจัดการ แต่กระนั้นก็ตาม ยังมีผู้ไม่รู้หนังสืออีกมากมายที่หลงเหลือ และถึงแม้จะมีคนจบการศึกษาในระดับต่างๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผลการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติหลายครั้งก็ยังพบว่า การอ่านของคนไทยยังอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ด้วยเหตุนี้รัฐบาลจึงต้องประกาศเป็นวาระแห่งชาติ โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มการอ่านโดยเฉลี่ยของคนไทยให้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ภายในปี ๒๕๕๕ และเด็กที่อยู่ในระบบโรงเรียนที่ยังอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ก็จะต้องหมดไปภาย ในปี ๒๕๕๕ เช่นเดียวกัน

          จึงเป็นภาระหน้าที่ของเราโดยตรงที่จะต้อง ช่วยกันคิด ช่วยกันหาวิธีที่ดีที่สุด เพื่อหาทางออกให้กับนักเรียนของเราบางคนที่ยังมืดมนอยู่ ซึ่งอันที่จริงเราก็ได้ถือปฏิบัติกิจกรรมต่างๆตามโครงการส่งเสริมรักการอ่าน เป็นทุกวันอยู่แล้ว เพียงแต่ว่า เราอาจจะต้องไปสัมผัสกับนักเรียนประเภทที่เรียกว่าผลักดันอย่างไรก็ยังคง อยู่กับที่หรือฉุดขึ้นมาจากเหวไม่ได้จริงๆ ก็ขอให้ถือเสียว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายให้กับเราอย่างยิ่ง ลองศึกษานักเรียนเป็นรายกรณี วิเคราะห์หาสาเหตุ ทำการวิจัยต่อไป บางทีเราอาจจะค้นพบเทคนิควิธีการที่ดีกว่าด้วยตัวเราเอง สักวันหนึ่งข้างหน้า เมื่อเราสามารถฉุดพวกเขาขึ้นมาได้สำเร็จ วันนั้นแหละที่ความเหน็ดเหนื่อยของเราจะเลือนหายไปในพริบตา คงไม่จำเป็นให้ใครๆหรือหน่วยงานใดมายกย่องชมเชยหรอก เชื่อเหลือเกินว่า หัวอกของคนที่เป็นครูอย่างเรานี้ คงไม่มีความสุขใดที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าการได้เห็นศิษย์ประสบผลสำเร็จ ไม่ว่าจะประสบผลความสำเร็จในเรื่องใดก็ตาม

          จงสู้ต่อไป... อย่าท้อ... ขอเป็นกำลังใจให้ตลอดเวลา ในช่วงปลายของเดือนแห่งการทำความดีนี้ ขอจบท้ายด้วยคำกล่าวที่ว่า “การเป็นคนดีนั้นเป็นสิ่งที่ประเสริฐ แต่การสอนคนอื่นให้เป็นคนดีนั้นจะประเสริฐยิ่งกว่า

บันทึกไว้เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๕๒

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น