ห้องเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom)..การศึกษาโดยครอบครัว (Home School)..อีก ๒ รูปแบบการจัดการศึกษาที่เหมาะกับสถานการณ์โควิดหรือวิกฤติอื่น ๆที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในอนาคตข้างหน้า มุมมองโดยส่วนตัวผมเห็นว่าห้องเรียนกลับด้านนั้นจะเหมาะที่สุดเมื่อโควิดเริ่มทุเลา จัดเรียนที่บ้าน ๓ วัน อีก ๒ วันมาส่งงานที่โรงเรียน พร้อมนำเสนอ อภิปราย ร่วมจัดนิทรรศการแสดงผลงานฯ ก็แล้วแต่บริบทของครูที่เป็นผู้อำนวยการสอน นี้คือบทสะท้อนอันเป็นตัวอย่างที่เราสามารถจะมาปรับเปลี่ยนประยุกต์ใช้ในการจัดการศึกษาในยุควิถีใหม่ อาจจะมีนวัตกรรมใหม่ๆมากกว่านี้อีกต้องลุ้นรอติดตามกันต่อไป แต่จะให้โควิดหมดเกลี้ยงรอเปิดห้องเรียน(On site)อย่างเดียว กว่าจะถึงวันนั้นเด็กๆของเราโดยส่วนใหญ่ก็สายไปแล้วครับที่พวกเขาจะมีโอกาสได้ตักตวงองค์ความรู้จากสื่อการเรียนรู้ในโลกดิจิทัล
วันเสาร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2564
ปรับวิธีการเรียนรู้ใหม่..ในยุควิถีใหม่
วันศุกร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2564
เดินตามนโยบาย “เด็กไทยวิถีใหม่ อ่านออกเขียนได้ทุกคน”
แต่กระนั้นก็ตาม
ท่ามกลางวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า ๒๐๑๙
กำลังบานปลายกระจายไปทั่วภูมิภาคและทุกพื้นที่ ดูเหมือนจะตอกย้ำคำท้าทายยิ่งทวีเพิ่มขึ้นเข้าไปอีก
ในช่วงขณะสถานการณ์ปกติการจัดการศึกษาของเราในภาพรวมถูกประเมินคุณภาพค่อนข้างต่ำในระดับย่ำแย่อยู่แล้ว
นับประสาอะไรยามเมื่อวิกฤติโควิดเข้ามาแทรกแซงจนจะจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในห้องเรียนแบบดั้งเดิม(On
site)ไม่ได้ แล้วการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบอื่นๆจะให้เกิดคุณภาพที่ดีกว่าเดิมได้อย่างไร
หากเรามองพิเคราะห์อย่างผิวเผินหรือมองคร่าวๆในแง่แห่งความเป็นจริง
แต่เราทุกฝ่ายจะหยุดคิด หยุดทำและนิ่งดูดายไม่ได้ครับ เซลล์สมองของเด็กทั้งซีกขวาและซ้ายที่เหมาะกับวัยเรียนรู้ในทุกระดับต้องอับเฉาไม่ได้รับการพัฒนาไปด้วยในทันที
แต่จะให้พวกเขาได้เรียนรู้ด้วยรูปแบบวิธีไหน อย่างไร สำคัญอยู่ที่เราทุกฝ่ายต่างหากจะต้องมาร่วมกันขบคิด
ท่านดร.อัมพร พินะสา
เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้กล่าวเพิ่มเติมในที่ประชุมในครั้งนี้อย่างน่าสนใจว่า
“เอกภาพในนโยบาย หลากหลายในการปฏิบัติ..ทั้งหมดเป็นหลักการ.. แต่วิธีการ อยู่ที่
บริบทของแต่ละพื้นที่”เป็นคำกล่าวที่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับถ้อยประโยคเหล่านี้
กอปรกับบนพื้นฐานข้อเท็จจริงจากสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ณ ปัจจุบัน เราจะพยายามตีห่างจากโควิด
เพื่อรอคอยที่จะเปิดการจัดเรียนการสอนในห้องเรียน(On site)ให้ได้ แต่ดูท่าทีเหมือนจะหนีไม่พ้นเสียแล้ว
มีแต่โควิดเข้ามาหาอยู่ใกล้เราทุกขณะ ดังนั้น เราต้องพร้อมที่จะอ้าแขนรับ พร้อมที่จะเผชิญฝ่าฟันสู้ไปด้วยกัน
คิดค้นหารูปแบบหรือวิธีการสอนที่หลากหลายมาปรับประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับแต่ละท้องที่
บางทีนี้คือวิกฤติที่กลายเป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่สำหรับบางคนที่จะได้ค้นพบนวัตกรรมใหม่ๆในการจัดการเรียนการสอนในท่ามกลางวิถีชีวิตปกติใหม่(New
normal) ก็อาจเป็นไปได้เสมอครับ
กล่าวโดยสรุป ผมเชื่อมั่นในศักยภาพของครูเราครับ
สามารถปรับวิธีเรียนเปลี่ยนวิธีสอนในช่วงสถานการณ์โควิดจนได้ในที่สุด
และเชื่อเหลือเกินว่าในเร็วๆนี้จะได้เห็นนวัตกรรมด้านการสอนที่เป็นแบบอย่างจากครูเราแน่นอน
อีกประการที่ผมอดที่จะปลื้มไม่ได้ เนื่องในโอกาสวันภาษาไทยแห่งชาติ ๒๙ กรกฎาคม ได้เห็นสถานศึกษาร่วมกันรณรงค์จัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์ภาษาไทย ด้วยวิธีการออนไลน์ มีการจัดกิจกรรมประกวดคัดลายมือ เขียนบทร้อยกรอง เขียนเรียงความ เขียนคำขวัญ ตอบปัญหาภาษาไทย ฯ ก็แล้วแต่ตามโอกาสที่เอื้ออำนวยหรือความสะดวกของแต่ละสถานศึกษาที่สามารถจะจัดได้ ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่เราได้เดินตามนโยบาย “เด็กไทยวิถีใหม่ อ่านออกเขียนได้ทุกคน” แล้วครับ