วันเสาร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

สื่อภาษาผูกมิตร..สร้างชีวิตดีงาม

คุณค่าภาษาไทย

           จากที่เคยเป็นคนอ่านหนังสือมาตั้งแต่ช่วงในวัยเด็กจนเข้าสู่วัยรุ่น เสมือนเป็นบุญที่ล้นเหลือเมื่อทุกวันนี้ได้กลายเป็นตะกอนที่ตกผลึกทางด้านความคิด ทำให้สามารถลิขิตเขียนพอเป็นเรื่องเป็นราวบ้าง แม้จะไม่เยื่ยมยอดเหมือนนักเขียนหรือกวีมืออาชีพ แต่ด้วยความชื่นชอบและหลงไหลในความงดงามของภาษาไทย จึงมีความสุขยิ่งนักเมื่อมีโอกาสทุกครั้งที่ได้เรียงร้อยถ้อยคำเป็นประโยคความเรียง รวมทั้งพรรณนาเขียนเป็นบทกานท์กลอน
            เจตนารมณ์ที่ได้เขียนไป ทำด้วยใจรัก ทำด้วยอารมณ์สุนทรีย์ที่มีเอ่อล้นอยู่ในจิตใจตน เหมือนกับคนที่มีดนตรีอยู่ในหัวใจฉันใดก็ฉันนั้น ไม่ได้คาดคิดที่จะพิชิตรางวัลต่างๆ แต่ด้วยแรงบันดาลใจจากคนรอบๆข้างซึ่งมีอยู่มากมายทั้งจากเพื่อนร่วมงานและนักเรียน คนที่เป็นครูเท่านั้นคงจะทราบดี คือเราจะทำอย่างไรให้ลูกศิษย์ลูกหาของเรามีลักษณะนิสัยเป็นคน"รักการอ่าน" เพราะเชื่อเหลือเกินว่าด้วยการอ่านอาจจะสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของใครบางคนได้ และที่สำคัญเราจะต้องร่วมคิดกันต่อว่าพอจะมีวิธีการไหนบ้างที่จะให้เขาได้อ่านหนังสืออยู่เป็นนิจ เพื่อให้เขาสามารถได้เรียนรู้ด้วยตนเองตลอดชีวิต กิจกรรมรณรงค์การใช้ภาษาไทย "ร้อยแก้ว ร้อยกรอง..มุมมองจากห้องผู้อำนวยการ" ขอเป็นส่วนหนึ่งซึ่งต้องการเติมเต็มในการมีส่วนร่วมสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นภายในองค์กรของเราตรงนี้ เพราะภาษาไทยนอกจากเป็นภาษาหลักของประเทศชาติแล้วยังถือว่าเป็นหัวใจที่สามารถจะนำไปเป็นเครื่องมือเพื่อการค้นคว้าแสวงหาองค์ความรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆได้ต่อไป
            และแล้วในวันนี้กับสิ่งทื่ไม่ได้คาดคิดมาก่อน อาจจะเป็นผลพลอยได้จากที่เคยตั้งใจมุ่งมั่น และดำเนินการมาอย่่างต่อเนื่อง ทั้งบทความและบทกลอนที่ได้เขียนสะสมไว้ ได้กลายเป็นผลงานที่ปฏิบัติเป็นเลิศ (Best Practice) ส่งผลจนได้รับการคัดเลือกเป็น "ผู้มีคุณูปการต่อการใช้ภาษาไทย" ผ่านจากระดับจังหวัดจนถึงระดับประเทศ ได้รับรางวัลพิเศษเป็นเข็มและโล่เชิดชูเกียรติ นับว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งนอกจากให้กับตนเองแล้ว ยังเป็นเกียรติให้กับโรงเรียนที่ได้ปฏิบัติงานอยู่ทั้งในปัจจุบันและที่ผ่านมา ซึ่งขอยอมรับว่ามีหลายชิ้นงานที่ได้สะสมไว้มาเป็นระยะๆตั้งแต่สมัยเป็นรองผู้อำนวยการ ในขณะเดียวกันก็รู้สึกภูมิใจและเป็นเกียรติให้กับหน่วยงานต้นสังกัดคือ สพป.ปัตตานี เขต ๒ และจังหวัดปัตตานีของเราอีกด้วย ที่เป็นตัวแทนหนึ่งเดียวปีนี้ที่ได้รับรางวัลอันทรงค่านี้
             จึงถือโอกาสสำคัญนี้นำคณะครูและนักเรียนที่มีผลงานการแข่งขันทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยติดอันดับในระดับเขตพื้นที่การศึกษา ของสพป.ปัตตานี เขต ๒ ครั้งล่าสุด มาศึกษาดูงานกิจกรรมวันภาษาไทยแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๖๐ ซึ่งจัดโดย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม เมื่อวันที่ ๒๗ ก.ค.๒๕๖๐ ณ หอประชุมใหญ่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย กรุงเทพฯ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับนักเรียนที่ขยันและมุ่งมั่นอันสมควรที่จะได้รับรางวัลที่มีคุณค่าทางใจเฉกเช่นเดียวกัน

วันศุกร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2560

สื่อภาษาผูกมิตร..สร้างชีวิตดีงาม

                                                          สภาพแวดล้อมพอเพียง 
          แรกเริ่มเดิมที ทีมวิทยากรที่มาอบรมบางท่านคิดไปว่า การจัดการการอบรมกับบรรดาผู้บริหารสถานศึกษานั้นมิใช่เรื่องง่าย เพราะผู้บริหารแต่ละท่านอาจจะมีป่วยการเมืองต้องมีภารกิจต่างๆขอออกไปโน่นนี่หรืออ้างโน้นอ้างนี้สารพัด แต่ที่ไหนได้กลับตรงกันข้าม ผู้อำนวยการโรงเรียนทุกท่านกระตือรือร้นสนอกสนใจให้ความร่วมมือตลอดการอบรม มีความสุข สนุกสนาน และเพลิดเพลินไปกับการเรียนรู้(Play and Learn)พร้อมๆไปกับวิทยากรอย่างไม่คาดคิด
          เพราะเราคือต้นแบบผู้ที่จะต้องเป็นผู้นำทางด้านวิชาการให้กับสถานศึกษาเพื่อสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้เกิดขึ้นในสถานที่เราได้ปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะอยู่ที่โรงเรียนใดก็ตาม เราจึงกลายเป็นต้นน้ำที่จะต้องสร้างตัวอย่างที่ดีให้กับคุณครู บุคลากรอื่นๆของโรงเรียน ผู้ปกครองและชุมชน ตลอดจนถึงบุคคลที่นับว่าสำคัญที่สุดที่ได้อยู่ปลายน้ำ นั้นก็คือ นักเรียน อันเป็นจุดหมายปลายทางที่เราทุกฝ่ายจะต้องร่วมกันบ่มเพาะให้เป็นไปตามคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีพฤติกรรมที่เหมาะสมสอดคล้องกับค่านิยมหลักของคนไทย ๑๒ ประการ และตามจุดมุ่งหมายของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติที่ต้องการให้ผู้เรียนเป็นคนดี มีปัญญา และมีความสุข
           จากที่อบรมเชิงปฏิบัติการ "การจัดสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการบ่มเพาะคุณลักษณะอยู่อย่างพอเพียง" (Enable Environment for Sufficiency Learning) ภาคใต้ ระหว่างวันที่ ๙-๑๓ มีนาคม ๒๕๖๐ ณ โรงแรมทวินโลตัส จ.นครศรีธรรมราช ดูเหมือนว่าเป็นอะไรที่มาทันเวลาได้พอดิบพอดี แค่ได้เห็นภาพผู้บริหารทุกท่านมีความจริงจังและตั้งใจ ทุกกลุ่มทุ่มเทและมุ่งมั่นในทุกๆกิจกรรม ร่วมกันคิดร่วมกันทำ จนทุกๆภารกิจที่ได้รับมอบหมายเสร็จสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีตามเวลาที่กำหนด จึงอดไม่ได้ที่อยากจะเล่าสู่กันฟังว่า เราผู้บริหารสถานศึกษาก็พร้อมเสมอที่จะร่วมกันขับเคลื่อนการศึกษาให้เป็นไปในทางทิศเดียวกันกับทุกๆฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะในเรื่องที่สอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
           "ระเบิดจากข้างใน"เป็นต้นทุนเดิมที่เกิดจากหัวใจของบรรดาผู้ที่เป็นผู้นำอยู่แล้ว การเสริมเติมเต็มด้วยการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการที่คุ้มค่าและได้รับประโยชน์มากมายเฉกเช่นในครั้งนี้ เป็นแรงแห่งบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ให้เราได้ถักทอสานต่องานที่พ่อทำ พร้อมที่จะนำองค์ความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับไปปรับประยุกต์ใช้ ณ สถานที่ทำงาน ร่วมกับผู้ร่วมงานต่อไป จึงขอขอบพระคุณท่านอาจารย์ดร.ปรียานุช ธรรมปิยา เป็นอย่างสูงที่มองไกลให้ความสำคัญกับผู้บริหารไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าครูและนักเรียน

                                       "อยู่อย่างพอเพียง เลี้ยงดูครอบครัว รวมตัวสร้างชุมชน ฝึกฝนตนที่โรงเรียน"
                                              คำขวัญตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง...โรงเรียนอนุบาลยะรัง