วันจันทร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2555

"คำบอกเล่า"..ของผู้อำนวยการโรงเรียน : 1

ครั้งที่ ปีการศึกษา ๒๕๕๔
          ขอความสันติสุขจงมีแด่ทุกท่าน ข้อความที่ท่านกำลังอ่านอยู่ขณะนี้เป็นคำบอกเล่าของ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านลางสาดที่ได้ลาดตระเวนไปเสาะแสวงหาองค์ความรู้จากหลายๆแหล่ง จึงอยากแบ่งปันเรียงร้อยเป็นถ้อยคำมาฝากให้กับเพื่อนครูได้รับอ่านบ้าง โดยได้หยิบบางประเด็นที่สำคัญอันเกี่ยวข้องกับวิชาชีพครูเป็นหลัก

          ในรอบเดือนนี้ ผมมีโอกาสได้เข้าร่วมประชุมผู้บริหารสถานศึกษาในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวันที่ ๘ มิถุนายน ณ โรงแรมซีเอส ปัตตานี ไปฟังวาระสำคัญจากดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการ กพฐ. ในเรื่องการหาแนวทางการจัดการศึกษาจังหวัดชายแดนใต้ ปีการศึกษา ๒๕๕๔ เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาทั้งระบบและยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้สูงขึ้น เกือบหนึ่งชั่วโมงของการบรรยาย ท่านมักจะอ้างงานวิจัยประกอบการบรรยายโดยตลอด มีงานวิจัยจากต่างประเทศชิ้นหนึ่ง ซึ่งได้ข้อค้นพบว่า เด็กนักเรียน ๒ คน อายุ ๘ ขวบ มีภูมิหลังที่เหมือนกัน เมื่อคนหนึ่งมีโอกาสได้เรียนกับครูเก่ง คือครูมืออาชีพ และอีกคนหนึ่งเรียนกับครูอ่อน ซึ่งหมายถึงคนที่ทำงานอาชีพครู แล้วไม่กระตือรือร้นที่จะเรียนรู้พัฒนาตนเองเพิ่มเติม ปรากฏว่าเพียงแค่ระยะเวลา ๓ ปี คนที่เรียนกับครูเก่ง มีความก้าวหน้าห่างไกลจากคนที่เรียนกับครูอ่อนถึง ๕๐ เปอร์เซ็นต์ไตล์ จากงานวิจัยดังกล่าว ผมจึงอยากฝากข้อคิดให้กับเพื่อนครูได้รับทราบว่า ไม่ว่านักเรียนของเราจะอ่านออกหรือเขียนไม่ได้ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจะสูงหรือต่ำ หัวใจสำคัญนั้นอยู่ที่ การดูแลเอาใจใส่ของคุณครู ซึ่งเป็นคำตอบสุดท้าย ดังข้อความที่ท่านเลขาฯ กพฐ. ได้ยกอ้างไว้ว่า “You can’t improve student learning without improving instruction"อีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญซึ่งจะต้องบันทึกไว้เพื่อเป็นความภาคภูมิใจแก่ชาวลางสาดทุกคน นั้นคือ การแข่งขันทักษะวิชาการระดับศูนย์เครือข่ายกูวิงตรัง เมื่อวันที่ ๒๙ มิ.ย.๒๕๕๔ นักเรียนของเรามีความสามารถได้รับรางวัลชนะเลิศ จำนวน ๒ รายการ รองชนะเลิศ อันดับ ๑ จำนวน ๒ รายการ และรองชนะเลิศ อันดับ ๒ อีกจำนวน ๓ รายการ เป็นการแสดงศักยภาพทั้งของนักเรียนและคณะครูทุกคนที่ได้ร่วมกันเสียสละ ทุ่มเทกำลังกายและกำลังทรัพย์ นับว่าคุ้มค่ากับผลที่ได้รับและแม้จะมีบางรายการต้องพลาดไปบ้าง อย่างน้อยก็เป็นประสบการณ์ที่เราควรจดจำไว้ แล้วจงเตรียมพร้อมค่อยมาสู้กันใหม่ในโอกาสต่อไป ขอเป็นกำลังใจพร้อมที่จะยืนอยู่เคียงข้างตลอดเวลา

          นี้คือข้อความที่เป็นคำบอกเล่าฉบับปฐมฤกษ์ ตั้งใจแล้วว่าจะเขียนให้ได้อย่างสม่ำเสมอ เมื่อได้ไปค้นพบเจอะเจอสิ่งดีๆที่แห่งไหน “มีดต้องลับเรื่อยๆเพื่อให้ได้คมฉันใด ปากกาก็ต้องหยิบมาเขียนบ่อยๆเพื่อลับสมองให้เกิดข้อคิดมากขึ้นฉันนั้น” จะมาเล่าสู่กันฟังอีกเรื่อยๆ ในวาระต่อไป

บันทึกไว้ เมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๔

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น