วันอังคารที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2555

บันทึกการนิเทศภายใน..หัวใจอยู่ที่เด็ก : 4

ครั้งที่ ปีการศึกษา ๒๕๕๒
          เป็นที่น่าเสียดายนับจากช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้เราจะต้องขาดบุคคลสำคัญที่เป็นผู้นำทางด้านการศึกษาอย่างคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา หญิงเหล็กที่แข็งแกร่งในแวดวงการศึกษาไทย จากการให้สัมภาษณ์ท่านได้ตอบว่าในช่วงบั้นปลายของชีวิตจะขอไปดูแลเลี้ยงหลานให้ได้เต็มที่ และได้มีเวลาเขียนหนังสือเกี่ยวกับเด็ก เป็นการบ่งบอกว่าท่านได้ให้ความสำคัญกับเด็กอยู่ตลอดเวลา สมควรแก่การยกย่องเพราะเราในฐานะที่เป็นครูด้วยกันต่างก็รู้อยู่เต็มอกเต็มใจแล้วว่า เด็ก คือ ทรัพยากรบุคคลที่มีค่ายิ่งเหนือสิ่งอื่นใด
          ข้อคิดอีกประการหนึ่งที่ท่านได้เขียนไว้ในคอลัมน์พบกันวันอังคารครั้งล่าสุดเกี่ยวกับเรื่องโอกาสทางการศึกษา ท่านได้ยกย่องชื่นชมการปฏิบัติงานของโรงเรียนขยายโอกาสหรือโรงเรียนที่เปิดโอกาสให้กับผู้ด้อยโอกาสทุกประเภทได้เข้ามาเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นการรับเด็กจากสถานพินิจ  เด็กที่ถูกทอดทิ้ง ถูกทารุณกรรมหรือมีปัญหา เด็กกำพร้า เด็กพิการ เด็กยากไร้ โดยไม่ควรเลือกรับเฉพาะนักเรียนที่มีความสามารถ ดังโรงเรียนหลายแห่งที่พอพัฒนาเข้ามาตรฐาน เป็นที่นิยม ก็เริ่มรังเกียจเด็กที่ไม่เก่ง ไม่พร้อม แล้วตั้งเกณฑ์คัดสรรนักเรียนขึ้นมา นับว่าเป็นกำลังใจที่ดียิ่ง เพราะโรงเรียนเรายังมีนักเรียนที่ขาดโอกาสอีกหลายคน หากเราไม่รับนักเรียนเหล่านี้เข้ามาเเล้ว เขาจะไปอยู่ที่ไหน อะไรจะเกิดขึ้นกับตัวเขาในอนาคต หากเมื่อต้องไปเผชิญกับสังคมภายนอกที่อาจจะเต็มไปด้วยแหล่งอบายมุข เกิดการแก่งแย่งแข่งขัน ชิงดีชิงเด่นกัน และสารพัดปัญหานับไม่ถ้วน
          ขอขอบคุณคุณครูทุกท่านที่ได้ติดตามดูแลและเอาใจใส่ต่อเด็กเหล่านี้ ยังจำได้ว่าเมื่อเดือนที่แล้วมีคุณครูหลายท่านที่ไม่ประสงค์ออกนามได้ร่วมบริจาคสิ่งของอุปโภคบริโภคให้กับลูกศิษย์ของเราจำนวนสี่สิบกว่าคนที่ได้เป็นเด็กกำพร้า และเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้พานักเรียนอีกจำนวนหนึ่งไปศึกษาแหล่งเรียนรู้นอกสถานที่ ณ กรุงเทพฯ และจังหวัดชลบุรี ต้องขอขอบคุณเป็นพิเศษให้กับคุณครูผู้ที่ได้ร่วมกันจัดโครงการนี้ให้เกิดขึ้น เพราะหากไม่มีโครงการนี้แล้ว นักเรียนของเราหลายคนก็คงจะไม่มีโอกาสได้เปิดโลกทัศน์ที่กว้างไกล โดยเฉพาะนักเรียนที่ยากไร้จากครอบครัวที่ยากลำบาก
           สัปดาห์นี้ประเดิมเริ่มแรกด้วยมุมมองและแนวคิดของผู้หญิงคนเก่งในประเทศไทยเรา คงไม่ผิดทำนองคลองธรรมหากจะจบท้ายด้วยอมตะพจน์ของนางมาร์กาเร็ต แทชเชอร์ อดีตนายกรัฐมนตรี
อังกฤษ หญิงเหล็กที่แข็งแกร่งของโลก ท่านได้ปรารภไว้ว่า ดิฉันมิอาจจะกล่าวได้ว่า ดิฉันเก่งและเหนือกว่าผู้ชาย แต่ดิฉันสามารถที่จะกล่าวได้ว่าดิฉันนั้นมิได้ด้อยไปกว่าผู้ชายแน่นอน
                                                                                                                                 
 บันทึกไว้เมื่อวันศุกร์ ที่    ตุลาคม   ๒๕๕๒  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น