วันอังคารที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

คุณภาพสิ่งแวดล้อม..ก็คือคุณภาพของประเทศ


          ทั่วทุกมุมโลกต่างก็คงยอมรับและเห็นพ้องต้องกันแล้วว่า ประเทศที่ได้รับการพัฒนาอย่างสมบูรณ์แบบนั้น เราจะไม่ดูแต่เฉพาะการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย หรือเศรษฐกิจดีประชากรมีรายได้สูงเท่านั้น หากแต่ว่ายังมีอีกสิ่งหนึ่งซึ่งเราควรต้องคำนึงถึง นั่นคือ คุณภาพสิ่งแวดล้อม          
          ญี่ปุ่นคือประเทศหนึ่งที่ตระหนักในเรื่องนี้เป็นอย่างดี อาจเป็นเพราะว่าเคยได้รับบทเรียนสิ่งแวดล้อมเป็นพิษจากโรงงานอุตสาหกรรมเมื่อสี่สิบกว่าปีที่ผ่านมาหรืออาจจะเป็นเพราะอะไรก็แล้วแต่ แค่ก้าวแรกที่ผมได้เหยียบลงบนผืนแผ่นดินแห่งนี้ที่สนามบินนารีตะ ได้เห็นขยะจำนวนหลายใบที่มีการแยกประเภท ก็เป็นที่ประจักษ์ชัดเจนแล้วว่า ทุกวันนี้ญี่ปุ่นมีความเป็นห่วงต่อสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง          
          ถัดจากนั้นผมก็ได้ตั้งข้อสังเกตอีกหลายอย่างที่ได้ประสบพบเห็น คนญี่ปุ่นเดินมากเป็นว่าเล่น หรือบางคนก็ขี่จักรยานเป็นพาหนะในการไปทำงาน นับว่าเป็นการบรรเทามลพิษทางอากาศได้ดียิ่ง และสิ่งที่ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมากก็คือ การที่ได้มีการคิดค้น เอาขยะ น้ำเสีย หรือสิ่งปฏิกูลอื่นๆ มารีไซเคิลไปใช้ประโยชน์ได้ใหม่ หลังจากที่ได้ไปศึกษาดูงานที่สถานที่บำบัดน้ำเสียในกรุงโตเกียว รวมจนถึงมีการคิดค้นแปลงน้ำฝนกลับมาใช้ได้อีกในเขตสุมิดากุ ยังมีอีกหลายแห่งที่ผมไม่ได้กล่าวไว้ ณ โอกาสนี้ แต่บอกได้เลยว่า ทุกส่วนของสังคมไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ เอกชน หรือประชาชนทุกสาขาอาชีพ ต่างก็คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ แม้แต่การดำเนินงานทางด้านธุรกิจของทุกบริษัทก็ยังต้องมีหลักประกันทางด้านสิ่งแวดล้อมเข้ามาเกี่ยวข้อง หากไม่เช่นนั้นบริษัทจะอยู่ไม่รอดหากไม่มีการกำหนดนโยบายเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมหรือการกำหนดมาตรการที่ใส่ใจให้กับสิ่งแวดล้อมมาเป็นตัวตั้ง
          ด้วยเหตุนี้กระมังที่บ้านเรือนและถนนทั้งสองข้างทางดูสะอาดเรียบร้อย มีต้นไม้เกือบทุกสาย มีสวนสาธารณะเกือบทุกพื้นที่ มองเห็นทุ่งนาและภูเขาเขียวขจีเต็มไปหมด และที่ผมแอบปลื้มในใจอดที่จะคิดถึงไม่ได้ที่นอกเหนือจากความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติแล้วก็คือ คุณภาพของทรัพยากรมนุษย์ กว่ายี่สิบวันที่ผมได้มาอยู่ที่นี่ คนญี่ปุ่นมีน้ำใจมาก ไม่แบ่งพรรคแบ่งพวก ไม่ดูถูกดูแคลนผิวสีหรือกลุ่มชาติพันธุ์ และที่สำคัญ มีนิสัยขยัน มุ่งมั่น ตรงต่อเวลา ก็สมควรแล้วที่มีผู้คนเขาพูดว่าเป็นประเทศที่เจริญก้าวหน้าอย่างแท้จริง
          แบบอย่างที่ดีเหล่านี้ผมจะพยายามนำไปประยุกต์ใช้ในสถานที่ทำงานต่อไป จุดเริ่มแรกก็คือเล่าให้กับเพื่อนร่วมงานและบรรดาลูกศิษย์ลูกหาทั้งหลาย เพื่อสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ปกป้องสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยการเรียนรู้ที่ผมได้สอนอีกด้วย และคิดว่าทุกหน่วยงานไม่ว่าจะเป็นระดับท้องถิ่นจนถึงระดับชาติในหลายๆประเทศหรือทั่วทุกมุมโลกคงจะตระหนักใส่ใจในเรื่องนี้เป็นอย่างดี เพราะคุณภาพของสิ่งแวดล้อมนั้นถือว่าคือหน้าตาของประเทศชาติเฉกเช่นเดียวกัน

หมายเหตุ บทความเรื่องนี้ได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสาร "ข่าวสารการศึกษา" สพท.นราธิวาส เขต ๑ ฉบับที่ ๑๓ ประจำเดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๔๗ เขียนไว้หลังจากกลับดูงานด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม ณ ประเทศญี่ปุ่น ปี ๒๕๔๗ โดยทุนองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งชาติญี่ปุ่น



"ญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับการศึกษา เพื่อสร้างคนให้มีคุณภาพ และนำคนเหล่านี้ไปสร้างชาติอีกต่อหนึ่งจนประสบผลสำเร็จอย่างน่าทึ่ง ประเทศไทยเราจึงต้องยกระดับการศึกษาของผู้คนในประเทศให้เท่าเทียมกับอารยประเทศเฉกเช่นเดียวกัน"
                                           คุณลักษณะเด่นของคนญี่ปุ่น 10 ประการ

1. ชอบอ่านหนังสือ
2. ช่างคิดช่างสร้างสรรค์   
3. การตรงต่อเวลา   
4. ความสะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อย
5. การอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่พูดโอ้อวด
6. ความซื่อสัตย์ สุจริต ไม่คดโกง     
7. การทำงานอย่างกระตือรือร้น
8. พิถีพิถันเอาใจใส่ในรายละเอียดต่างๆ เล็กๆ น้อยๆ
9. แยกแยะเรื่องส่วนตัวและความรับผิดชอบในหน้าที่
10. การทำงานเป็นทีมแบบรวมกลุ่มOne for all & all for one.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น