นับเวลาเกือบห้าเดือนที่อยู่โรงเรียนบ้านกระเสาะ
เป็นครั้งแรกที่มีโอกาสได้เรียงร้อยถ้อยคำนำสาระสำคัญมาฝากให้เราทุกคนได้อ่านไว้เป็นข้อคิด
ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะเราทุกคนล้วนแต่มีอุดมการณ์เดียวกัน
มุ่งมั่นอยากจะเห็นนักเรียนเป็นคนดี มีปัญญา และมีความสุข
อันเป็นจุดมุ่งหมายหลักที่ทุกภาคส่วนในสังคมได้วาดฝันไว้
ในท่ามกลางสังคมที่มีความแตกแยก
แบ่งพรรคแบ่งพวก แก่งแย่งแข่งขัน ชิงดีชิงเด่น
เชื่อเหลือเกินว่าทุกฝ่ายก็อยากจะเห็นความสันติสุขกลับคืนมาและดูเหมือนว่าต่างฝ่ายต่างก็คาดหวังด้วยการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพเท่านั้นที่จะสามารถจรรโลงสังคมให้อยู่เย็นเป็นสุขได้
จึงมีการเปลี่ยนหลักสูตร ปรับนโยบายหลายต่อหลายครั้ง
ภาระหนักอึ้งจึงตกอยู่ที่หัวอกคนเป็นครูอย่างเราๆ
เพราะตราบใดที่ยังมีนักเรียนอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ คิดวิเคราะห์ไม่เป็น
ทั้งครูและผู้บริหารนี่แหละ กลับกลายเป็นจำเลยให้กับสังคมอย่างหลีกหนีไม่พ้น
ขอได้โปรดอย่าไปใส่ใจมากนักกับคำกล่าวครหา หรืออาจจะคิดในเชิงบวก ถือเสียว่าเป็นการติเพื่อก่อก็แล้วกัน ท่านชลอ กองสุทธิ์ใจ ผู้ทรงคุณวุฒิ กพฐ. ได้กล่าวไว้อย่างน่าสนใจว่า “อะไรที่เปลี่ยนใน สพฐ. หรือที่กรุงเทพฯ ช่างเถอะ แต่การเป็นครูขอให้สอนเด็ก รักเด็ก ดูแลเอาใจใส่ เพื่อให้เด็กเป็นคนดี เก่ง แกร่ง และกล้า” ฟังแล้วก็น่าคิดเพราะเราในฐานะวิศวกรสร้างสังคม คงไม่จำเป็นที่จะต้องมีการชื่นชมหรือได้รับการยกย่องจากใครๆหรอก เพียงขอให้เราทำด้วยใจและจิตวิญญาณ ทุ่มเทเสียสละให้กับลูกศิษย์อย่างจริงจัง อัลลอฮทรงโปรดปรานอยู่แล้ว สิ่งที่ดีงามก็จะตามมาเอง ขอเป็นกำลังใจแด่คุณครูทุกท่านและจงทำงานอย่างมีความสุข
บันทึกไว้ เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2557
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น